A moment of Romance ชาตินี้ทั้งชาติจะไม่พรากจากเธอ

8.3

เขียนโดย เคนซัง

วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 เวลา 15.13 น.

  21 ตอน
  126 วิจารณ์
  31.77K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

20)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ภัตตาคารอาหารจีน สถานที่ซึ่งเป็นที่ประชุมครั้งใหญ่ระหว่าง เฮียหน่ม และ พี่นก
ประตูหน้าร้านขึ้นป้ายและตัวอักษรไว้ว่า ปิดร้าน 1 วัน

ภายในร้าน เหล่าลูกน้องทั้งสองฝ่าย นับสามสิบคน ต่างจ้องหน้ากันอย่างเอาเป็นเอาตาย ราวกับว่าจะกลืนกินเลือดเนื้อกันเลยทีเดียว
พี่นกและโทโมะ ป๊อบปี้ เคนตะ รวมลูกน้องอีกเกือบยี่สิบคน นั่งอยู่อีกฟากของร้าน โดยที่พี่นกนั้น นั่งร่วมโต๊ะเดียวกันกับ เฮียหนุ่ม
โทโมะสอดสายตามองหาเขื่อน ก็ไม่พบตัว เจอแต่เหล่าลูกน้องของเฮียหนุ่มในจำนวนพอๆกับฝ่ายของเขาเอง
บรรยากาศภายในร้านนั้นเงียบราวป่าช้า แต่ทว่า คำพูดของพี่นกก็เอ่ยขึ้นมาทำลายความเงียบนั้น

" ไอ้หนุ่ม แกต้องการอะไร ? " พี่นกถามคู่กรณี
" ไม่น่าถาม กองทัพยังต้องมีนายกอง แก๊งค์นี้มันจะขาดหัวหน้าไม่ได้โว้ย แกน่ะ เลิกจากวงการนี้ไปซะ" เฮียหนุ่มพูดเสียงดัง
" แล้วแกจะเอายังไง ถึงฉันจะออกจากวงการ แต่ใช่ว่าลูกน้องฉันจะยอมรับนายทั้งหมด" พี่นกอ้างเหตุผล
" จะยังไงก็เรื่องของแก แต่ฉันขอลูกน้องแกทั้งหมด ยกเว้นไอ้โทโมะ ฉันมีแค้นส่วนตัวกับมัน " เฮียหนุ่มเอ่ยวาจาอาฆาตโทโมะ


" เฮ้ย !!! แกพูดยังงี้ได้ไงว้ะ ? " เสียงของเหล่าลูกน้องของพี่นก โดยมีป๊อบปี้เป็นแกนนำ ไม่พอใจ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ หมายจะเข้าไปทำร้ายเฮียหนุ่ม แต่ฝั่งลูกน้องเฮียหนุ่มก็ยืนขึ้นเข้ามาประจันหน้ากัน

" หยุดเดี๋ยวนี้ ป๊อบปี้ นั่งลงซะ !!! " พี่นก สั่งห้ามลูกน้องของตน
" ไอ้หนุ่ม.... ถึงแกจะพูดขนาดนี้ แต่ลูกน้องฉันก็ไม่คล้อยตามแกหรอก... " พี่นกพูดต่อ
" ถ้างั้น พวกแกกับฉันก็จบกันแค่นี้ " เฮียหนุ่มพูดจบก็ตบโต๊ะดังปัง แล้วลุกขึ้นยืน พี่นกลุกขึ้นตาม แต่หารู้มั้ยว่า เฮียหนุ่มชักมีดที่เหน็บอยู่ใต้โต๊ะขึ้นมาจ้วงแทงเข้าที่ลิ้นปี่ของพี่นกจนมีดปักเข้าไปแทบมิดด้าม ก่อนจะดึงมีดที่ปากแผลออกมา
ท่ามกวามความตกตะลึงของเหล่าลูกน้องที่ดูเหตุการณ์อยู่

เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น โทโมะ ป๊อบปี้ เคนตะ และเหล่าลูกน้องคนอื่นๆ ก็ลุกขึ้นจากที่นั่ง โผเข้าหาพรรคพวกของเฮียหนุ่ม ที่โดดเข้ามาประจันหน้าเช่นกัน
เหล่านักเลงทั้งสองฝ่าย ต่างเข้าห้ำหั่นกัน ด้วยอาวุธที่มี


" ถ้ากูตาย มึงลำบากแน่ ไอ้หนุ่ม อั่ก ..... " พี่นกพูดด้วยความโกรธ และมีมีดแทงอยู่ที่ท้อง

ลูกน้องของเฮียหนุ่มคนหนึ่ง พยายาม พาพี่นกออกไปจากห้องนี้ โดยมีพวกโทโมะ คอยฟัดกับลูกน้องเฮียหนุ่มไว้

" ฆ่ามัน ฆ่ามันให้หมด  อย่าให้ไอ้หนุ่มมันหนีไปได้ " เฮียหนุ่มสั่งการลูกน้อง


" พาพี่นกหนีไปหลังร้าน ข้างหน้ามีพวกมันอยู่ " ป๊อบปี้ตะโกนสั่งลูกน้องคนที่พาพี่นกหนี

โทโมะหยิบเก้าอี้ขึ้นมาฟาดพวกเหฃ่าลิ่วล้อเฮียหนุ่มคนแล้วคนเล่า โดยมีป๊อบปี้ และเคนตะคอยช่วยเหลือ แต่ว่า พวกเขาไม่ได้เตรียมใจว่าจะเจอเหตุการณ์โหดร้ายขนาดนี้
จึงไม่ทันตั้งตัว เพื่อนๆของโทโมะคนแล้วคนเล่า ต้องถูกทำร้ายจนล้มไปกับพื้น

" ไม่ไหวแล้ว เรารีบหนีกันเหอะ " เคนตะบอกโทโมะ

โทโมะเองก็รู้สถานการณ์ดี จึงรีบวิ่งไปบริเวณหลังร้าน ซึ่งมีเคนตะ และ ป๊อบปี้ วิ่งตามมาด้วย
พวกลูกน้องของเฮียหนุ่มเอก็ตามโทโมะไปติดๆ

บริเวณหลังร้าน เป็นห้องครัว โทโมะจึงหยิบมีดขึ้นมาสู้กับพวกนักเลงที่วิ่งตามมา เขาฟาดฟัน พวกมันจนเลือดสาดเต็มพื้น


โทโมะ เคนตะ ป๊อบปี้ พี่นกที่บาดเจ็บ และลูกน้องคนอื่นๆที่ยังเหลืออยู่ ต่อยตีกับพวกของเฮียหนุ่มที่เหนือกว่า อย่างไม่หวั่นเกรง  


เฮียหนุ่ม ที่มีความแค้นกับโทโมะ ค่อยๆย่างสามขุมเข้ามาอย่างใจเย็น แล้วหยิบไม้นวดแป้งที่วางอยู่บนโต๊ะทำอาหารขึ้นมา
โทโมะ ที่มะรุมมะตุ้มกับเหล่านักเลง จนไม่ระวังตัว ถูกเฮียหนุ่มฟาดไม้นวดแป้งเข้าไปที่ท้ายทอยอย่างจัง จนล้มทั้งยืน


" โทโมะ !!!! " ป๊อบปี้ตะโกนเรียกเพื่อนดังลั่น เมื่อเห็นโทโมะค่อยๆทอดกายลงไปนอนกับพื้น

พี่นก ที่เจ็บปวดบาดแผลจนแทบขาดใจ กระโดดกอดร่างของเฮียหนุ่มเอาไว้

" เฮ้ย ปล่อยกูเดี๋ยวนี้ !!! " เฮียหนุ่มสะบัดตัวให้พ้นพันธนาการของพี่นก ที่กอดรัดอยู่

เคนตะวิ่งไปประคองร่างของโทโมะขึ้นมา ป๊อบปี้เองก็วิ่งไปเปิดประตูหลังร้านออก แล้วตะโกนเรียกเคนตะ

" เร็วเข้า เร็ว " เสียงตะโกนของป๊อบปี้ เรียกสติของเคนตะ ให้วิ่งไปตามต้นเสียง

เคนตะ พยุงร่างของโทโมะ วิ่งออกไป ป๊อบปี้จะเข้าไปช่วยพี่นก แต่ทว่า

" ไม่ต้องมาห่วงกู รีบไป ป๊อบปี้ รีบหนีไป " พี่นกที่กำลังกอดเฮียหนุ่มอยู่สั่งป๊อบปี้ด้วยน้ำเสียงดุดัน

ป๊อบปี้กระอักกระอ่วนใจ แต่ก็ต้องจำใจหนีไปทั้งน้ำตา เขาปิดประตูดังปัง แล้ววิ่งตามโทโมะกับเคนตะที่หนีไปก่อนแล้ว

" รอช้าอยู่ทำไม รีบตามไปฆ่ามันสิวะ บัดซบ !!! " เฮียหนุ่มสั่งลูกน้องที่ยังสับประยุทธ์กันกับลูกน้องของพี่นกที่เหลือเพียง 4-5 คน

ลูกน้องของเฮียหนุ่มส่วนหนึ่งจะวิ่งไปเปิดประตู พี่นกเห็นเช่นนั้น จึงผละออกจากร่างของเฮียหนุ่ม ไปขวางทางพวกลิ่วล้อไว้
พี่นกยืนบังประตู โดยมีกระทะเพียงหนึ่งใบใช้เป็นอาวุธ
พี่นกที่ตาพร่ามัว เพราะเสียเลือดไปมากมาย เหวี่ยงมือที่ถือกระทะใบนั้นไปมั่วซั่ว เป็นการประกาศเจตนารมณ์ว่า

ถึงตาย ก็จะไม่ยอมให้ใครผ่านประตูบานนี้ไปได้เด็ดขาด

แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ พี่นกถูกรุมทำร้ายจากกลุ่มนักเลงนับสิบจนสิ้นลมหายใจที่หน้าประตูนั่นเอง





--------------------------------------

เคนตะ ที่พยุงโทโมะมาจากเหตุการณ์นองเลือด ภายในภัตคารโหด กระเสือกกระสน มายังตึกร้าง ด้านหลังของภัตตาคาร
เพื่อเป็นการหลบหนีสายตาของผู้คน เป็นการป้องกันการถูกตำรวจจับกุมไปในตัวด้วย

โทโมะที่อ่อนแรง พลัดหลุดมือจากเคนตะ การถูกตีที่ท้ายทอย ทำให้กะโหลกของโทโมะร้าว
เลือดกำเดาจึงไหลออกมาจากจมูกของเขาไม่หยุด เคนตะ จึงพาโทโมะมาพิงกับผลังตึก

" เฮ้ย !!!โทโมะ โทโมะ แกเป็นยังบ้าง ยังไหวมั้ย ? " เคนตะเขย่าร่างของเพื่อนรักเป็นการเรียกสติ

โทโมะ ที่สลึมสลือ ค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้น

" ฉัน.....ไหว ยัง...ไหว...อยู่ " โทโมะขยับปากพูดอย่างยากลำบาก

" เออ งั้นรออยู่นี่แป๊บนึง ฉันจะไปดูป๊อบปี้กับพวกเราที่เหลืออยู่ " เคนตะบอก


" พวกแกไม่ต้องไปไหนกันหรอก " เสียงปริศนาดังขึ้นด้านหลังของเคนตะ

เขื่อนนั่นเอง เขื่อนแอบตามเคนตะและโทโมะมาตั้งแต่ออกจากภัตตาคารมาแล้ว


" ....เพราะพวกแกจะต้องถูกฉันฆ่าที่นี่นี่แหละ หึๆๆๆๆ " เขื่อนพูดแล้วหัวเราะในลำคออย่างเลือดเย็น
" แก...ไอ้เขื่อน ไอ้เลวเอ๊ย ฉันจะฆ่าแก แล้วก็จะฆ่าพ่อแกด้วย  " เคนตะ กันฟันพูดด้วยความแค้น  

เคนตะโผจากร่างของโทโมะ แล้วเงื้อหมัดพุ่งเข้าไปหาเขื่อน หมายจะซัดกำปั้นให้หน้าหงาย


ปัง!!!!!!



เสียงปืนดังขึ้น พร้อมกับร่างของเคนตะ ที่ค่อยๆล้มลงไป
โทโมะได้แต่นั่งมองอย่างตกตะลึง แต่ก็ไร้เรี่ยวแรงจะลุกขึ้นไปช่วยสหาย


" ไอ้โง่เอ๊ย.... " เขื่อนที่ถือปืนแสยะยิ้มอย่างซาตาน พูดอย่างผู้มีชัย
" หึๆๆๆๆ ฮ่ะๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ " เขื่อนระเบิดเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง " คราวนี้ ถึงตาแกแล้ว ไอ้โทโมะ ตายตามเพื่อนแกไปซะ " เขื่อนพูดจบ ก็ยกปืนขึ้น แล้วเล็งไปยังโทโมะ ที่ได้แต่นั่งนิ่งมองดู
" แก ไอ้เขื่อน..... " โทโมะได้แต่พูด แต่ร่างกายก็ขยับไปไหนไม่ได้

เขื่อนค่อยๆเหนี่ยวไกปืนแล้วแสยะยิ้มอย่างใจเย็น

โครม เอี๊ยด................!!!!!!

ร่างของเขื่อน ลอยละลิ่ว ไปไกลกว่าสิบเมตร เมื่อตกมากระแทกพื้น ก็แน่นิ่งไป เลือดสดๆ ไหลออกจากหัวของเขาราวกับเปิดก๊อก
รถที่พุ่งเข้าชน เบรกจนล้อลาก ก่อให้เกิดควันจาการเสียดสีเหม็นขึ้นมาจนฉุนจมูก

" เฮ้ย โทโมะ ฉันมาช่วยแล้ว " ป๊อบปี้ลงจากรถคันนั้น แล้ววิ่งเข้ามาดูอาการของเพื่อน

โทโมะ ค่อยๆคลานเข้ามาหาเคนตะ ที่นอนนิ่งไปหลังจากถูกยิง

" โทโมะ.... " เคนตะรวบรวมกำลังที่เหลือค่อยๆพูดขึ้น
" คะ...เคน...นี่แกถูกยิง " ป๊อบปี้ตกตะลึง เมื่อรู้ว่าเพื่อนรักถูกทำร้ายจนปางตาย
" ป๊อบปี้เรอะ...หึๆๆๆ โทษทีนะ แต่ว่า ฮึก.. " เคนตะเริ่มสะอื้น " ฉันไปต่อไม่ไหวแล้ว... ฮึกๆ ฉัน...ฉัน... ช่วยแก้แค้น....ให้พวกเรา......ทุกคนด้วย " เคนตะพูดทั้งน้ำตา
" เคนตะ แก... แกต้องไม่เป็นไรนะเว้ย แข็งใจไว้ ฉันจะพาแกไปโรงบาล " ป๊อบปี้พูดอย่างตื่นตระหนก น้ำเสียงสั่นเครือ
" อย่าพยายามเลย.....ฉันไม่ไหวแล้ว อั๊ค!!!!  " สิ้นเสียง เคนตะก็กระอักเลือดออกมาจากปาก มือของเขาบีบแน่นกับมือของโทโมะที่จับเอาไว้
" เคนตะ มึงอย่าหลับนะโว้ย เคนตะ เหิ้ย...... มึงฟังเสียงกูซี่..... ตื่น...... ตื่นเด้ มึงได้ยินมั้ย โฮๆๆๆๆๆ " ป๊อบปี้เขย่า ตัวเพื่อนรักราวกับคนเสียสติ

เคนตะ ที่สิ้นใจไปแล้ว ยังหลับตาไม่สนิทนัก โทโมะ ที่เอาแต่สะอื้นน้ำตาไหล ค่อยเอามือปิดเปลือกตาของเพื่อนรักลง
เสียงร่ำไห้อย่างบ้าคลั่ง ดังระงมไปทั่วบริเวณ เพื่อนรัก และลูกพี่ที่นับถือ เพื่อนร่วมอุดมการณ์มากมาย ต้องเอาชีวิตไปทิ้งในเหตุการณ์นองเลือดครั้งนี้

อันธพาล ไม่เคยได้ดี.............!!!!!


-------------------------------------------------------------


ที่บ้านของแก้ว

ป้าพิศ กำลังเก็บเสื้อผ้าของแก้วยัดลงกระเป๋าใบโต
แต่ตัวแก้วเอง ได้แต่นั่งร้องไห้อยู่บนเตียง ป้าพิศที่เลี้ยงดูหนูแก้วมาตั้งแต่เด็ก ก็ได้แต่สงสาร แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเป็นเพียงแค่คนรับใช้

" คุณหนูค่ะ..... " ป้าพิศเรียก พร้อมลงนั่งเคียงข้าง แล้วดึงแก้วเข้ามาสวมกอด
" ป้าเข้าใจความรู้สึกของคุณหนูดีค่ะ " ป้าพิศปลอบ
" ป้าพิศค่ะ หนูรักเค้ามาก หนูไม่อยากพรากจากเขาไปไหนเลย  ฮึก ๆ " แก้วสะอื้น
" หนูแก้วของป้าโตแล้ว รักหนุ่มก็เป็นแล้ว หนูแก้วสามารถเลือกทางเดินชีวิตตัวเองได้แล้วนะ ป้าคิดว่า ที่คุณแม่พาหนูไปคราวนี้ อาจจะไม่ใช่เส้นทางที่ดีที่สุด แต่หนูแก้วต้องทำใจยอมรับมัน สักวันมันจะดีเอง ป้าเชื่ออย่างนั้น  " ป้าพิศพยายามโน้มน้าวใจแก้ว
" ต่อให้หนูต้องหนีไปหาเค้า หนูก็จะทำ....... ฮึก " แก้วพูดขึ้น

ป้าพิศเองก็หนักใจ แต่ก็พูดอะไรมากไม่ได้นะ จึงได้แต่ลูบหัวคุณหนูของตนอย่างเอ็นดู

" โถ...หนูแก้วของป้า..... "



--------------------------------------------------------------------

ป๊อบปี้ ขับรถมาอย่างเรื่อยเปื่อย
โทโมะที่นั่งอยู่เบาะหลัง ซึ่งยังมีอาการเลือดกำเดาไหลไม่หยุด ก็ยกแขนเสื้อขึ้นเช็ด
ฉับพลัน เขาก็มีความรู้สึกแปลกว่ามีบางอย่างอยู่ในกระเป๋าเสื้อของเขาเอง
โทโมะจึงล้วงหยิบมันขึ้นมา ก็พบว่ามันเป็นจดหมาย ที่แก้วเขียนเอาไว้เมื่อวาน เขาอ่านจนจบ น้ำตาก็ไหลออกมา เขาสูญเสียเพื่อน และลูกพี่ที่เคารพยังไม่พอ หนำซ้ำยังต้องมาเสียคนรักตามไปอีก

ป๊อบปี้มองผ่านกระจกมองหลัง ก็เอ่ยปากถาม

" เป็นอะไรของมึงว่ะ ? "
" ปล่าว...ฉันแค่.....รู้สึกว่าตัวเองมันไร้ค่า " โทโมะพูดตัดพ้อ
" เกิดเป็นนักเลง ถึงจะมีศักดิ์ศรีที่เราภูมิใจ แต่คนอื่นก็มองเราไม่มีค่าของความเป็นคน มันก็ถูกแล้วที่แกจะคิดอย่างนั้น " ป๊อบปี้พูด ยิ่งตอกย้ำให้โทโมะน้ำตาไหลมากกว่าเดิม
" แล้วเราจะเอาไงต่อไปดี ? " โทโมะถามป๊อบปี้

ป๊อบปี้ไม่ตอบ เขาหักรถไปจอดข้างทาง แล้วหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาขึ้นมา กดหาเบอร์โทรที่คุ้นเคย

" ...............ฟางเหรอ ? " ป๊อบปี้ถาม เมื่อปลายทางรับสาย
" จ้า........พี่ป๊อบ พี่หายไปไหนมาทั้งวัน ฟางโทรไปก็ปิดเครื่อง " เสียงใสๆในโทรศัพท์พูดขึ้น  
" ......................... " ป๊อบปี้เงียบเหมือนใช้ความคิด
" พี่ป๊อบ พี่ไม่สบายหรือเปล่า ทำไมเสียงพี่แปลกๆ " เสียงของฟางเอ่ยถาม
" ฟาง......พี่ว่าเราเลิกกันเหอะ " ป๊อบปี้ตัดสินใจพูด
" พี่ป๊อบ......พี่เล่นตลกอะไร ฟางไม่เล่นด้วยนะ " เสียงใสๆ เริ่มสั่น ราวกับกำลังจะสะอื้นไห้
" พี่พูดจริง ต่อไปนี้ เราจบกัน แล้วไม่ต้องมาถามอะไรจากพี่อีก เราเลิกกัน แค่นี้นะ "
" เดี๋ยวก่อน...พี่ป๊อบ เดี๋ยว....!!!!! "

ป๊อบปี้กดตัดสายทิ้ง น้ำตาก็ไหลออกมา เขาเปิดประตูรถแล้วเดินลงมา ขว้างโทรศัพท์ลงกับพื้น

" โถ่.....โว้ย............!!!!!!!!!!!!! โฮๆๆๆๆ " ป๊อบปี้ตะโกนขึ้นฟ้าอย่างบ้าคลั่ง

ชายหนุ่มพิงตัวกับรถอย่างเหนื่อยล้า แล้วค่อยๆ ทรุดตัวนั่งลง จากนั้นก็เริ่มทึ้งผมตัวเอง เอาท้ายทอยโขกกับประตูรถอย่างกับคนบ้า

" โฮๆๆๆๆ ฮือๆๆ โฮๆๆๆๆๆๆๆ ทำไมมันต้องเป็นอย่างนี้ ทำไม ทำไมกัน.......โฮๆๆๆๆๆๆๆ " ป๊อบปี้คุ้มคลั่งไปเสียแล้ว

โทโมะที่นั่งมองดูการกระทำของเพื่อนตั้งแต่ต้น ก็รู้ว่านี่คือเส้นทางสุดท้าย ที่ป๊อบปี้จะเลือก
เขาหยิบ กระดาษจดหมายของแก้วมานั่งดูอย่างเศร้าใจ





----------------------------------------


 
ที่บ้านของแก้วในเวลาเย็นย่ำ

ลุงเริงยกกระเป๋าขึ้นรถ ตามด้วยแก้วที่เดินออกจากบ้านอย่างเหม่อลอย
แม่ของแก้ว ก็เดินสั่งงานกับป้าพิศ ตามแก้วมาติดๆ

" แก้ว ไปรอแม่ที่รถก่อนไป.... " แม่สั่ง แก้วจึงค่อยๆ เดินมาที่รถอย่างช้าๆ ราวกับร่างกายที่ไม่มีวิญญาณ
" นี่ป้าพิศ ท่อประปา อย่าลืมเรียกช่างมาซ่อมนะ........บลาๆๆๆ ฯลฯ " แม่ของแก้วร่ายยาว ป้าพิศก็ก้มหัวรับคำ เหมือนกับกิ้งก่าที่ได้ยินเสียงผิวปาก

แก้วเดินมาจะเปิดประตูรถ ก็มีบางอย่างดลใจ ให้เธอมองไปที่หน้าบ้าน
สิ่งที่สายตาของเธอเห็น คือรถมอเตอร์ไซต์ ฮายาบุสะ สีส้ม ของโทโมะนั่นเอง
โทโมะที่นั่งหันหลังให้ ก็มีความรู้สึกว่ามีสายตาจับจ้องตนอยู่ จึงค่อยๆ หันหน้ากลับมามองดู

 

 

 

 

 

 

 

 

เพลงประกอบฉาก

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

แก้วที่มองเห็นสภาพของคนรักที่ราวกับซากศพเดินได้
เธอเอามือขึ้นป้องปาก ป้องกันเสียงสะอื้นไม่ให้แม่ได้ยิน แล้วก็วิ่งเข้ามาสวมกอดชายคนรัก น้ำตาก็ไหลไม่หยุด
สาวน้อยเอามือขึ้นปัดผม เอามือลูบไล้ใบหน้าที่ฟกช้ำดำเขียวของชายหนุ่ม
เป็นสภาพที่น่าสงสารเหลือเกิน

 

 

" เธอจะไปกับฉันมั้ย.... " โทโมะเอ่ยปาดพูดอย่างเหนื่อยแรง
แก้วพยักหน้าเป็นการตอบตกลง แทรมไปด้วยเสียงสะอื้นในลำคอของเธอ
" เธอจะไม่เสียใจแน่....นะ " โทโมะถามย้ำอีกครั้ง
" ไม่ว่าโทโมะจะไปไหน ฮึก..... แก้วก็จะไปด้วย เราจะไม่พรากจากกัน ฮึกๆ " แก้วพูดพลางร้องไห้พลาง



ป้าพิศแอบแว้บไปเห็นพอดี จึงทำเนียนชี้ให้คุณหญิงดูสวนดอกไม้

" แล้วต้นไม้นี่ จะให้ตัดเลยมั้ยค่ะ...... " ป้าพิศทำเนียนพาคุย

คุณหญิงวิชุดา ก็ชี้โบ๊ชี้เบ๊ ไปตามเรื่องราว
พลัน ก็ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซต์ดังขึ้น คุณหญิงหันหลังมา ก็พบว่าแก้วไม่ได้อยู่ในรถ

" แก้ว.... กลับมาเดี๋ยวนี้ " คุณหญิงวิ่งตามลูกสาวออกไป แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว




บนท้องถนนยามค่ำคืน แก้วที่ซ้อนท้ายคนรักของเธอมา ก็มีรอยยิ้มเกิดขึ้นบนใบหน้าของเธอเสียที
สาวน้อยซบใบหน้าขาวเนียนของเธอลงบนแผ่นหลังของชายหนุ่ม แล้วกอดเอาไว้แนบแน่น

โทโมะ เอารถมาจอดหน้าร้านรับจัดงานแต่งงาน เขาใช้เงินที่เหลือทั้งหมดเช่าชุดแต่งงานมาสองตัว

แก้วมองดูอยู่ข้างนอกร้านก็ยิ้มทั้งน้ำตา เธอยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาแห่งความสุขที่พราั่งพรูออกมา

 

โทโมะในชุดสูทแต่งงานสีขาว และแก้วในชุดเจ้าสาวขาวสวย ขับรถซ้อนกันบนถนนที่เต็มไปด้วยแสงสีของเมืองหลวงในยามค่ำคืน
เลือดกำเดาของโทโมะ ที่เหมือนว่าหยุดไหลไปแล้ว กลับเริ่มหยดลงบนมือของแก้ว ที่สวมกอดชายหนุ่มเอาไว้




-------------------------------------------

 

 

เฮียหนุ่ม โทรหาลูกชายอย่างร้อนใจ แต่ก็ไม่มีการรับสาย

" มันหายไปไหนของมันในเวลาแบบนี้นะ ไอ้ลูกคนนี้ " เฮียหนุ่มพูดขึ้นอย่างโมโห
" เฮียครับ ได้เวลาไปเก็บส่วยที่ดาวดึงส์อาบอบนวดแล้วครับเฮีย " ลูกน้องเดินเข้ามาบอกหัวหน้าของตน ที่นั่งอยู่บนโซฟา
" เออๆๆ ไปก็ไป " เฮียหนุ่มรับคำอย่างฉุนเฉียว

 

 

---------------------------------------

 

 

รถของโทโมะ มาจอดอีกครั้ง ที่โบสถ์คริสต์แห่งหนึ่ง
เสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น

" เออ....ป๊อบเหรอ ว่าไง...... อืม....... โอเค เสร็จธุระแล้วฉันจะรีบไป " พูดจบโทโมะก็กดวางสาย

โทโมะหันมายิ้มให้แก้ว แก้วเองก็ยิ้มรับโทโมะ

น้ำตาเธอยังไม่หยุดไหล มันเป็นน้ำตาแห่งความยินดี

นี่คือสิ่งที่เธอต้องการจากชายคนรักของเธอมากที่สุด

 

ชายหนุ่มจูงมือสาวน้อย คนรักของเขา มาที่หน้ารูปปั้นพระแม่มารีย์
โทโมะค่อยๆล้วงมือไปในกระเป๋ากางเกง
เขาหยิบแหวนขึ้นมา แล้วดึงมือซ้ายของแก้วขึ้นมาด้วย
โทโมะบรรจงสวมแหวนลงไป
แก้วยิ้มเขิน แต่น้ำตาก็พรั่งพรูตามมา
 


โทโมะเงยหน้าขึ้นมา ชายหนุ่มร่างสูง ค่อยๆโน้มตัวลงมาจุมพิตคนรักของเขา
แก้วหลับตาพริ้ม รอรับจูบอันดูดดื่มของชายหนุ่มที่เธอรักนักหนา

ริมฝีปากของโทโมะ บรรจงประทับลงบนฝีปากนุ่มนวลของแก้วอย่างแผ่วเบา และเนิ่นนาน...........................................



 

 

โปรดติดตามตอนอวสาน

 

 

 

ปล. ตอนนี้ จัดเต็ม ให้อ่านกันยาวๆ เลยครับ

ไม่รู้จะถูกใจกันหรือเปล่า ยังไงๆ ก็ช่วยคอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ อีกตอนเดียวก็จะอวสานแล้ว

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา