The Loveless หัวใจไร้รัก...(แล้วฉันต้องทำอย่างไร?)

9.2

เขียนโดย OUM_PF

วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 11.28 น.

  40 ตอน
  1082 วิจารณ์
  123.27K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

24)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

The Loveless หัวใจไร้รัก...(แล้วฉันต้องทำอย่างไร?)

 

 

ตอนที่24 เอาแล้วไง... 

 

 

ร่างบางค่อยๆลืมตาขึ้นตื่นขึ้นกลางดึก พลันนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เธอเพิ่งรู้ว่าเป็นวันนั้นของเดือน แล้วเธอก็มี

 

อาการไม่เหมือนคนอื่นอีกน่ะสิ เป็นเมื่อไรคนรอบข้างเป็นอันต้องตกอกตกใจ ก็เล่นสลบเหมือดทุกครั้งที่เป็น ไม่

 

เลือกสถานที่และเวลา อย่างวันนี้ก็กะว่าจะเดินมาสลบบนเตียง แต่มันดันไม่ทัน ดีนะไม่หัวร้างคางแตก เธอขยี้

 

ศีรษะเบาๆ มองนาฬิกาบนโต๊ะข้างหัวเตียงบอกเวลาตีสาม เธอเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว เมื่อเสร็จแล้วก็

 

เดินออกห้องน้ำมา สายตาพลันสะดุดเข้ากับโทโมะ...โทโมะ!!!

 

 

“กรี๊ดดดดดดดดดดดด คุณเข้ามาได้ยังไง”ชายหนุ่มงัวเงีย ขยี้ตาเบาๆ แล้วหาวโชว์ก่อนจะเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่า

 

เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ

 

 

“ฉันถามว่าคุณเข้ามาได้ยังไง”เธอมองหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง

 

 

“ก็เดินเข้ามา”เธออยากจะเข้าไปข่วนหน้าหล่อๆนั่นนัก คนอะไรกวนประสาทชะมัด

 

 

“ฉันหมายความว่า คุณ เข้า มา ทำ อะ ไร ใน ห้อง ของ ฉัน!!!”เธอเน้นทีละคำอยากพยายามกดอารมณ์ที่เดือด

 

ปุดๆไว้

 

 

“มานอนเฝ้าเธอไง”

 

 

“ไม่จำเป็น ฉันไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของคุณนะ และก็ไม่ใช่แฟนที่รักกันจริงๆ”เธอเอ่ยอย่างหัวเสีย เมื่อเขาไม่ให้เกียรติ

 

เธอเลยสักนิด

 

 

“ก็ไม่ใช่หรอก!เห็นว่าไม่สบายเลยมานอนเฝ้า ไม่คิดว่าจะได้คำขอบคุณดีๆแบบนี้น่ะ”เขาคว้างหมอบลงบนโซฟา

 

อย่างหงุดหงิด อะไรกันเรื่องแค่นี้เอง

 

 

“เอ๊ะ นี่คุณเป็นคนผิดนะ คุณต่างหากที่เข้ามาในห้องของฉันยามวิกาลแบบนี้น่ะ”เธอขึ้นเสียงเมื่อเขาพูดเข้าข้างตัว

 

เอง

 

 

“เห๊อะ ฉันบอกไปหมดแล้ว แล้วฉันก็ให้เกียรติเธอเสมอ...ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่มายืนด่าฉันฉอดๆอย่างนี้หรอก คง

 

ได้สลบคาอกไปแล้วแหละ”เขาตอบโต้ก่อนจะเดินตึงตังออกไปจากห้อง คำพูดของเขาทำเอาเธออึ้งอยู่พักใหญ่

 

...เมื่อเกมถูกเดิมพันไว้ว่าหากเขาลากเธอขึ้นเตียงได้ เกมเป็นอันต้องจบ แล้วก็เป็นเธอเองที่เสียเปรียบ แต่แปลก

 

....ทั้งๆที่เขาได้แต่ผลประโยชน์ แล้วอะไรคือเหตุผลที่เขาไม่ยอมทำล่ะ

 

 

 

 

 

           ฝ่ายโทโมะที่เดินหัวเสียเข้าห้องมาแล้วทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้หวายตัวกว้างในห้องนอน เธอนี่มันเป็นคนยังไง

 

กันนะดื้อรั้น ไม่ยอมฟังใครเลยจริงๆ ทั้งๆที่เขาบอกไปแล้วว่าไม่ได้ประสงค์ร้ายอะไร แต่เธอกลับไม่ยอมเชื่อเลย ก็

 

จริงอยู่ที่เขาเป็นผู้ชาย และการอยู่สองต่อสองในที่รโหฐานกับผู้หญิงแบบนั้น ก็ต้องมีบ้างที่คิดจะฉวยโอกาสกับเธอ

 

แต่เพราะเห็นว่าเป็นเธอ เขาเลยยับยั้งใจไว้ อาจเป็นเพราะตัวเขาเองอยากจะลองสานสัมพันธ์กับเธอให้ลึกซึ้งกว่านี้

 

เพราะครั้งแรกที่เขาได้พบกับเธอ เธอได้ทำให้เขารู้สึกถึงความรักแรกพบ เธอเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างตรงใจเขาเลย

 

...หากจะลองคบหาดูก็คงไม่เสียหาย....แต่เธอไม่ง่ายอย่างที่คิด นี่แหละที่เขาตามหามาตลอด28ปี

 

 

 

 

 

             สมาชิกครอบครัวนีระสิงห์และจิระคุณอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาที่โต๊ะอาหารเพื่อรอสองหนุ่มสาวคูรัก

 

หมาดๆลงมาร่วมโต๊ะ รอเพียงครู่ทั้งสองก็เดินมาที่โต๊ะอาหาร

 

 

“ขอโทษนะครับที่ให้ทุกคนต้องรอ”โทโมะเอ่ยขอโทษอย่างสุภาพ แก้วก็ก้มหัวตามน้อยๆ คุณประภาพยักหน้ายิ้มๆ

 

ก่อนจะเชื้อเชิญให้ทั้งคู่นั่งประจำที่

 

 

“วันนี้มีแต่กับข้าวอร่อยๆทั้งนั้นเลยลูก ท่านกันเยอะๆนะจ้ะ”ก่อนทุกคนจะลงมือทานอาหารเช้าอย่างเงียบๆ เมื่อ

 

ทานเสร็จคุณประภาก็เอ่ยขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

 

 

“ป๊อปจะพาน้องกลับเมื่อไรลูก”ป๊อปปี้หันไปมองคนตัวเล็กข้างตัวที่ทำหน้าง้ำงอน เพราะตื่นเช้ามาเธอก็บ่นถึงรอยตี

 

ตราที่เขาทำไว้เสียมากมาย

 

 

“ผมกะว่าจะพาน้องไปเที่ยวก่อนน่ะครับ พรุ่งนี้ค่อยกลับ”

 

 

“จ้ะ ก็ดีนานๆทีเราจะมีเวลาให้น้องบ้าง”ก่อนคุณประภาจะหันไปทางโทโมะ

 

 

“แล้วเราล่ะจะพาแฟนเรากลับเมื่อไร”คำถามของคุณประภาทำให้ผู้ใหญ่ที่เพิ่งทราบข่าวใหม่ตาโต

 

 

“ก็ว่าจะวันนี้เลยล่ะครับ ผมมีงานต้องทำ”

 

 

“แก้วยังไม่อยากกลับค่ะ คุณน้าคะ ขอแก้วอยู่ที่นี่ด้วยคนนะคะ นะคะคุณย่า นะคะคุณป้า นะคะคุณลุง”แก้วหันไป

 

เว้าวอนผู้ใหญ่ เรื่องอะไรเธอจะกลับไปกับไอ้หื่นนี่กันเล่า อารมณ์แปรปรวนยิ่งกว่าผู้หญิงวัยทองซะอีก

 

 

“เอ่อ แต่น้ากับคุณป้าจะอยู่ที่นี่อีกนานเลยนะจ้ะ กลัวว่าหนูแก้วจะเบื่อเสียก่อน เกือบสองอาทิตย์เลยล่ะจ้ะ กว่าคุณ

 

ประวิทย์จะกลับก็คงอีกสักสามสี่วันแน่ะ”เธอฟังแล้วหน้าเสีย แค่เธอมาพักที่นี่เพียงคืนเดียวร้านของเธอก็คงจะ

 

วุ่นวายกันแย่แล้ว ถ้าอยู่นี่อีกสองสามวันร้านเธอไม่เจ๊งกันหมดเหรอทีนี้

 

 

“เอ่อ...งั้นหนูขึ้นเครื่องกลับก็ได้ค่ะ”เธอพยายามหาทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับตัวเองแล้ว

 

 

“ช่วงนี้ช่วงเทศกาล ถ้าจะกลับด่วนคงไม่มีเที่ยวบินหรอกจ้ะ ย่าว่า”ใบหน้าของเธอยิ่งซีดเผือด เมื่อคิดว่าจะต้องร่วม

 

ทางกับโทโมะไปจนถึงกรุงเทพฯ

 

 

“กลับกับดีกว่าครับคุณแก้ว...รับรองปลอดภัย”น้ำเสียงน่าเชื่อตายแหละ ฮือ ถ้าเกิดว่าเขาจับเธอปล้ำระหว่างทางล่ะ

 

ใครจะมาช่วยเธอล่ะ

 

 

“ไปเถอะแก้วพี่รับประกันอีกคน”ป๊อปปี้เอ่ยสนับสนุนโทโมะเต็มที่ ก่อนจะโดนเล็บคมของฟางจิกเข้าให้ที่ต้นขา ทำ

 

เอาชายหนุ่มเบ้หน้าด้วยความเจ็บ

 

 

“งั้นฟางขับรถไปส่งดีมั้ย”ฟางให้ทางเลือกกับเธอ ซึ่งก็จุดประกายความหวังขึ้นมาทันที

 

 

“ไม่ได้นะ ผู้หญิงสองคนเดินทางไปตามลำพังไม่ปลอดภัย แกน่ะไปกับไอ้โมะน่ะดีแล้วแก้ว อย่ามาพรากฟางไป

 

จากพี่”ป๊อปปี้เอ่ยอย่างเอาแต่ใจ

 

 

“ไอ้พี่ป๊อป...”เธอหมายจะต่อว่าลูกพี่ลูกน้องที่เสนอทางเสี่ยงตายให้เธอ

 

 

“หยุด เราสองคนนี่มันยังไงตาป๊อป ยัยแก้ว แม่ว่าไปกับตาโมะน่ะดีแล้ว เขาก็รับปากแล้วนี่ว่าจะไม่ทำอะไรเรา”คุณ

 

นันทาเอ่ยอย่างเอาจริง และถือว่าเป็นมติเอกฉันท์ไม่มีใครขัดได้ ทุกคนจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาทานของว่างต่อไป

 

 

 

 

 

          แก้วก้าวเท้าลงนั่งเบาะข้างๆคนขับในรถของโทโมะอย่างใจแป๊ว สายตามองขอความช่วยเหลือจากฟางที่

 

ถูกว่าที่สามีกอดรัดตัวไว้ตลอด

 

 

“บ๊ายบาย ไอ้โมะ ดูน้องกูดีๆนะเว้ย ห้ามแตะแม้แต่ปลายเล็บ”ป๊อปปี้พูดอย่างอารมณ์ดี

 

 

“แก้วดูแลตัวเองด้วยนะ พรุ่งนี้ฟางจะเข้าไปหา พี่โมะฝากยัยแก้วด้วยนะคะ”ฟางบีบมือเธออย่างให้กำลังใจ ก่อนจะ

 

ถูกป๊อปปี้ลากเข้าไปในตัวบ้าน

 

 

เมื่อลับแผ่นหลังของทั้งสองโทโมะก็ออกคำสั่งเสียงแข็ง

 

 

“คาดเข็มขัดด้วยครับ”น้ำเสียงที่ดูห่างเหินนั่นมันทำให้เธออยากร้องไห้นัก เขาเป็นแบบนี้แล้วน่ากลัวชะมัด

 

 

เธอดึงสายเข็มขัดนิรภัยมาคาด ก่อนเขาจะออกรถ เธอเบือนหน้าออกทางกระจกข้าง สายตามองวิวข้างทางที่รถ

 

เคลื่อนตัวผ่านไปอย่างรวดเร็วด้วยความตระหนก บรรยากาศในรถนั้นช่างหน้าอึดอัด เงียบอึมครึม อย่างกับอยู่ใน

 

ป่าช้าก็มิปาน นี้ที่เขาไม่ยอมชวนเธอเพราะว่าโกรธเรื่องเมื่อคืนหรอ ก็เธอไม่รู้นี่นา คนไม่รู้ย่อมไม่ผิดไม่ใช่หรอ

 

...แก้วนั้นถกเถียงความคิดของเธออยู่พักใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจเป็นฝ่ายง้องอนโทโมะเสียเอง

 

 

“คุณโกรธฉันหรือคะ...”เธอตั้งใจรอคำตอบจากปากของชายหนุ่มอย่างใจจดใจจ่อ

 

 

“ผม...”

 

"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

คือเรามีเรื่องจะขอร้องหน่อยนะ คือเราอ่านคอมเม้นแล้วไม่สบายใจเลย เราอยากจะบอกว่าการเขียนฉากเอ็นซีไม่

ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะคะ คิดว่าข้อนี้นักเขียนทุกคนคงรู้ดี การที่จะเขียนให้มันออกมาแล้วภาษามันดูสวยงามที่สุดหรือ

เท่ากำลังความสามารถของเรา ที่เราเลือกที่จะแต่งเอ็นซีเพราะนิยายของเรามันมาแนวนี้แล้ว แล้วเราก็เคยบอกว่า

มันมีเหตุและผลของมัน ยิ่งมีคนไม่อยากอ่านแบบนี้สักเท่าไรเราก็หนักใจที่จะแต่งมันออกมาอีก บอกตามตรงว่าเรา

ค่อนข้างเสียความมั่นใจ เหมือนเราเป็นคนวิปริตอยู่คนเดียว ขอเถอะนะคะ ยิ่งคุณเป็นแฟนคลับของพี่แก้ว แล้วเรื่อง

นี้แน่นอนว่าต้องมีฉากอย่างว่า แล้วอย่างนี้เราจะกล้าอัพลงได้ยังไง ที่เราเลือกจะแต่งนิยายลงที่เว็บนี้เพราะเห็นว่า

ทุกคนอบอุ่นดี คอยเม้นคอยให้กำลังใจกัน และก็ขอบคุณสำหรับทุกโหวตและเม้นนะจ้ะ ทุกคนยังเป็นกำลังใจของ

เราเสมอ ไม่ว่าจะเหนื่อยยังไงเราก็พยายามแต่งนิยายแล้วก็อัพให้ได้อ่านกันเกือบทุกวัน เพราะเราชอบนะที่จะนั่ง

อ่านคอมเม้น(แอบโรคจิต)แล้วก็มีความสุขที่จะแต่งมัน ยังไงก็ขอโทษด้วยนะถ้าใครรำคาญ เพราะพร่ามยาวไป

หน่อย เราไม่ได้แรงนะ แต่เห็นใจเราหน่อยเถอะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.1 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา